วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ตอนที่ 1 ขาซ้ายของแม่


ขาซ้ายของแม่

                ขาซ้ายของแม่ เป็นเรื่องราวในความนึกคิดของหนุ่มวัยกลางคน ซึ่งเมื่อครั้งเป็นเด็กก็อาศัยอยู่บ้านนา เขามีแม่พ่อคอยดูแล พอถึงหน้านาก็ทำนา พอนอกฤดูเก็บเกี่ยวก็ทำงานอื่นมิมีหยุดหย่อน เพื่อเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัวให้เติบใหญ่  จนกระทั่งถึงวัฏจักรชีวิตของคนวัยหนุ่มสาวแถบบ้านนอก เมื่อเติบใหญ่ก็ต้องเข้าเมืองหางานทำ เพื่อแบ่งเบาภาระในครอบครัว ต้องจากบ้านทุ่งมาอยู่เมืองกรุงทำงานเป็นพนักงานบัญชี และใช้จดหมายเป็นสื่อในการรับรู้ความเป็นอยู่ของคนที่ห่างไกลอย่างพ่อแม่และพี่น้องของตน แม่เขียนจดหมายถึงเขาไม่บ่อยนักส่วนใหญ่จะเป็นพ่อกับพี่สาว และจดหมายฉบับล่าสุดนี้เป็นจดหมายของแม่ที่มีรอยยับย่น ไม่มีชื่อที่อยู่ผู้ส่ง แต่รู้ได้จากตราประทับบนแสตมป์ว่าเป็นจดหมายจากบ้าน เมื่อเปิดอ่านก็ชวนให้เขานึกถึงภาพของแม่อย่างเด่นชัด ทั้งลักษณะท่าทาง รูปร่าง  และเหตุการณ์ครั้งเมื่อพาแฟนสาวไปบ้านแม่มีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส เขามองเห็นขาข้างซ้ายของแม่ที่ดูแปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น แต่แม่ก็ไม่แสดงอาการอะไรทั้งยังกระตือรือร้นที่จะต้อนรับขับสู้ แม่ของเขาพยายามจะหาของมาต้อนรับ จนนึกถึงส้มโอที่ยังหลงเหลือบนต้น เขาทัดทานจะไปเก็บส้มเองแต่แม่ไม่ยอมแม่พยายามพยุงตัวเพื่อจะไปเก็บส้มโอมาให้ ด้วยการเคลื่อนไหวที่ลำบากเหลือทน เขามองแล้วก็อดคิดไม่ได้ที่จะพยายามรักษาแม่  หลังจากกลับมาจากบ้านเขาคิดเสมอว่าจะต้องเก็บเงินรักษาขาของแม่ให้ได้ แต่ด้วยมีเหตุผลหลายอย่างทั้งการที่ต้องดูแลแฟน การสร้างรากฐานครอบครัว ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน  ทำให้เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องขาของแม่เลย  ถึงแม้เขาจะได้ไปเยี่ยมพี่สาวที่มีครอบครัวอยู่ใกล้เคียงแต่ทั้งสองก็มิได้เอ่ยถึงเรื่องขาของแม่เลยสักนิด  จนได้รับจดหมายฉบับนี้แม่ได้บอกถึงอาการขาของแม่ว่า “พักนี้ปวดขาบ่อย แต่ไม่เป็นไรมากไม่ต้องเป็นห่วง”  เขาอ่านจดหมายอีกรอบก่อนจะเขียนตอบกลับไป เขารู้สึกเศร้าใจมากจนไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง “กราบเท้าคุณแม่ที่เคารพ” เมื่อจบข้อความนี้ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อไปดี และเขาคิดต่อไปว่า “กราบเท้าคุณแม่...ใช่สิ กราบเท้าคุณแม่แต่เป็นข้างซ้ายนะ โปรดเถิดอย่าเป็นอะไรให้มากกว่านี้ ถ้าโชคช่วยจะรีบมารักษา ผมให้สัญญา”

ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
                                       - คนส่วนใหญ่ในสังคมยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลบุพการีน้อยมาก แต่จะให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นอยู่ ความสุข ความสบายและปากท้องของตนเอง
                                    -  บุตรพึงดูแลบุพการีของตน ไม่ปล่อยให้ลำบากหรือเป็นทุกข์หากเมื่อเราสามารถช่วยเหลือได้

                                 -   ครั้งเราเป็นเด็กท่านดูแลเราให้เติบใหญ่ได้ เมื่อครั้นท่านชราแก่เฒ่าไป เหตุใดเราจึงจะดูแลไม่ได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น